วันอังคารที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ทวิตเรื่องที่มาของวันคริสต์มาส (ปี 2012)


ผมได้รวบรวมทวิตเตอร์ของผม (@Ajbomb) ในคืนวันก่อนคริสต์มาส (Christmas Eve) ปี 2012 มาไว้สำหรับผู้ที่ต้องการจะอ่านย้อนหลัง ครับ

คริสต์มาส ในความหมายแล้ว หมายถึงวันที่พระเยซูเกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ หรือวันฉลองวันคล้ายวันเกิดของพระเยซูนั่นเอง (1)

คริสต์มาสในความหมายที่แท้จริง จึงไม่ใช่วันเกิดของซานต้า หรือวันแจกของขวัญใดๆ  แต่ที่มีการฉลองเพราะเป็นวันที่ผู้ที่นับถือคริสต์ชื่นชมยินดีที่พระเยซูมาเกิด (2)
คำถามก็คือว่า แล้วทำไมต้องดีใจที่พระเยซูมาเกิด? เกิดแล้วดีต่อโลก ดีต่อชีวิตของผู้คนในสมัยนั้นหรือแม้กระทั่งสมัยนี้อย่างไรถึงได้ฉลองกันใหญ่โตไปทั้งโลก? (3)

วันพุธที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

คริสเตียน คืออะไร?



เป็นคลิปวิดิโอ ที่บอกเล่าเรื่องราว ภาพรวมทั้งหมดของคริสเตียนได้ดีมากครับ เสียดายยังมีแต่ภาษาอังกฤษ แต่ทำได้ดีมาก เลยนำมาแชร์ให้ดูกันครับ





วันศุกร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

พลังแห่งความเรียบง่าย (Power of Simplicity)


ชีวิตของมนุษย์เรานั้น มีเพียงแค่ชีวิตเดียว แต่เรากลับยอมให้หลายสิ่งทำให้ชีวิตเราเสียเวลา จนพลาดแผนการและสิ่งต่างๆ ที่พระเจ้าได้ทรงจัดเตรียมไว้ให้กับชีวิตของเรา  มีสิ่งชั่วร้ายหลายอย่างที่คอยฉุดรั้งชีวิต ทำให้เราเสียเวลา  การเสียเวลาในบางสิ่งที่ไม่จำเป็นนั้น ถือได้ว่าเป็นการเสียเวลาช่วงหนึ่งของชีวิตไปเลยทีเดียว  
เมื่อเราเป็นเด็กนั้น เรามีความคิดที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อน เหมือนเมื่อตอนเราโตเป็นผู้ใหญ่  เด็กๆ มักมีความคิดที่เรียบง่าย มองโลกไม่ซับซ้อน  นั่นคือพลังแห่งความเรียบง่าย  หรือ Power of Simplicity    ถ้าเรามีความเรียบง่ายในชีวิต เราจะมีชีวิตที่ดีขึ้น สามารถทำสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้น และเกิดผลมากขึ้นด้วย   ในพระธรรม 1 โครินธ์ 2:1-4  เขียนไว้ว่า

“พี่น้องทั้งหลาย เมื่อข้าพเจ้ามาหาท่าน ข้าพเจ้าไม่ได้มาด้วยคำพูด สละสลวย หรือ สติปัญญาเลอเลิศ ขณะที่ข้าพเจ้าประกาศคำพยานเกี่ยวกับพระเจ้า ให้แก่ท่าน”

วันอาทิตย์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2555

ก้าวข้ามอดีตอันขมขื่น..




ในปีที่ผ่านมา บางคนอาจจะประสบกับปัญหาชีวิตในด้านต่างๆ  อาจเป็นเรื่องความผิดพลาด ทำให้เสียเงินเสียทอง เสียของรัก  แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ เราต้องไม่จมอยู่กับอดีตและลุกขึ้นเดินหน้าต่อไป  แต่คนส่วนใหญ่ (รวมตัวผมเองด้วย)มักพบว่า การจะฝ่าปราการความทรงจำอันขมขื่นนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย  วันนี้ผมไปนมัสการพระเจ้าที่คริสตจักรพระคุณเต็มล้น ซึ่งเป็นวันแรกของปีนี้คือ 1 มกราคมและได้รับฟังคำเทศนาจากศิษยาภิบาล ที่ผมเห็นว่าเป็นประโยชน์มาก ไม่ใช่กับเฉพาะแค่คริสเตียนเท่านั้น แต่กับคนที่นับถือศาสนาอื่นๆ ด้วย  นั่นคือ วิธีการ ก้าวพ้นจากความขมขื่นในอดีต    

ในคำเทศนานั้น  ศิษยาภิบาลได้บอกว่า เราไม่ควรยอมให้ตัวเราตกเป็นเหยื่อของอดีต  เพราะอดีตนั้นเหมือนกับลูกกระโดดที่เขากั้นไว้ให้ลดชะลอความเร็ว บนถนนในหมู่บ้าน   เป็นตัวขัดขวางเพื่อให้ชีวิตเราล่าช้าลง  อดีตได้กลายเป็นกับดัก ล่อลวงชีวิตของเราไม่ให้เดินหน้าต่อไปได้    ในพระคัมภีร์ไบเบิ้ล มีเขียนไว้ว่า

พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าไม่ถือว่าตนเองฉวยสิ่งนี้มาได้แล้ว   แต่ข้าพเจ้าทำอย่างหนึ่ง คือ ลืมสิ่งที่ผ่านมาและโน้มตัวไปหาสิ่งที่ อยุ่ข้างหน้า  (ฟิลิปปี 3:13)

วันอาทิตย์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2554

รวมทวิตวันคริสต์มาส ปี 2011




หมายเหตุก่อนอ่าน: มีบางท่านในทวิตเตอร์ตั้่งข้อสังเกตว่า ผมใช้ศัพท์และภาษาบางคำไม่เหมาะสมกับพระเจ้าพระเยซู ขอชี้แจงว่าเจตนาเพียงต้องการให้คนที่อ่านซึ่งไม่ใช่เป็นคริสเตียนได้เข้าใจและเห็นภาพชัดขึ้น ถ้ามีคำศัพท์หรือสิ่งใดไม่เหมาะสม ต้องขออภัยพี่น้องคริสเตียนด้วย ผมยืนยันว่าทำไปด้วยใจบริสุทธิ์และมั่นใจว่าพระเจ้าได้รับเกียรติ และจะทำให้คนรู้จักพระเจ้าพระเยซูมากขึ้นด้วยภาษาที่ืสื่อสารที่เรียบง่าย ขอบพระคุณพระเจ้า ขอบคุณพระเยซู พระสิริมีแด่พระเจ้า เอเมน....


เราต้องมารู้ก่อนว่า ทำไมศาสนาคริสต์ต้องมีพระเยซู? คำตอบ พระเยซู คือเครื่องเซ่นบูชา หรือ เรียกภาษาเราว่าเป็น "แกะบูชายัญ" ก็ได้นะ (1)
คริสเตียนเขานับถือว่า พระเจ้า มีองค์เดียวสูงสุดล่ะ ห้ามไปเคารพบูชาสิ่งอื่น พระเจ้ามีมาก่อนโลกนี้ จึงมีมาก่อนพระเยซูด้วย (2)

วันเสาร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2553

รวมทวิตคืนวันคริสต์มาสอีฟ 2010



เมื่อคืนก่อนวันคริสต์มาส ทะลุมาจนถึงวันคริสต์มาส ผมได้ทวิตเล่าเรื่องเกี่ยวกับวันคริสต์มาสและพระเยซูไว้ใน Twitter แต่หลายท่านอาจไม่ได้อ่าน หรือ อ่านแล้วไม่ต่อเนื่องผมเลยคัดลอกมาไว้ในบลอคนี้ด้วย เพื่อให้ท่านอ่านย้อนหลังได้  อย่าได้สงสัย ถ้า ข้อความที่ 89 -98  หายไป ไม่มีเหตุผลใดนอกจากผมเรียงหัวข้อกระโดดข้ามไปนะครับ..

0. คืนนี้ ขอเล่าเรื่องเกี่ยวกับ คริสต์มาส เป็นเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ เหมือนที่เคยทำเมื่อปีที่แล้วนะครับ
1. วันคริสต์มาส ถือเป็นวันคล้ายวันประสูติของพระเยซู แต่วันที่แน่นอนจริงๆ ไม่มีใครทราบเป็นการประมาณว่าช่วงนี้
2. มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์โบราณก่อนพระเยซูมาเกิด ว่า จะมีกษัตริย์มาเกิด และจะนำชาวยิวซึ่งอยู่ใต้ปกครองของโรมันให้เป็นอิสระ
3. แม่ของพระเยซู ชื่อนางมารีย์ กำลังจะแต่งงานกับโยเซฟ แต่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กันมาก่อน เป็นหญิงพรมจรรย์
4. วันหนึ่งทีทูตสวรรค์มาบอกนางว่า พระเจ้าจะให้นางกำเนิดพระผู้ช่วยให้รอด และให้ตั้งชื่อว่า "เยซู"
5. นางมารีย์ก็อึ้งไป และบอกว่าจะเป็นไปได้อย่างไร ไม่เคยมีเซ็กส์ไรเลย แต่ถ้าเป็นประสงค์ขอพระเจ้า ก็ขอให้เป็นเช่นนั้นเถิด

วันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ที่มาของ "พระนามพระเยซู"




ผมเขียนเรื่องนี้เพราะคืนนี้เป็นคืนก่อนวันคริสต์มาส (Christmas Eve) ซึ่งถือต่อๆ กันมา โดยประมาณว่าช่วงนี้ของเดือนธันวาคม (เนื่องจากในอดีตไม่ได้มีการจดบันทึกเป็นวันที่ที่แน่นอนไว้) พระเยซูได้กำเนิดขึ้นมาบนโลก   สิ่งที่น่าสนใจคือ พระนามของพระองค์ซึ่งปรากฏอยู่ในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลและที่ต่างๆ บางทีก็เรียก "เยซู" บางทีก็เรียก "พระคริสต์" บางคนก็เรียกเต็มยศว่า "พระเยซูคริสต์"  ผมไปอ่านพบหนังสือที่น่าสนใจที่อธิบายเกี่ยวกับพระนามของพระองค์ไว้ค่อนข้างสมบูรณ์และอ่านเข้าใจง่าย จึงขอคัดลอกมาให้ท่านผู้อ่านได้อ่าน ในวันคริสต์มาสปีนี้ ครับ...

บางครั้งพระคัมภีร์เรียกพระเยซูว่า "พระบุตรของพระเจ้า"  บางครั้งก็เรียกว่า "บุตรมนุษย์" สองพระนามนี้แสดงถึงความกลมเกลียวระหว่างสองสภาพของพระเยซู คือ สภาพเป็นพระเจ้าและสภาพเป็นมนุษย์ มิใช่ว่า พระองค์ทรงเป็นครึ่งต่อครึ่งระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าเต็มบริบูรณ์และทรงเป็นมนุษย์เต็มบริบูรณ์  ไม่มีทางที่จะแยกสองอย่างนี้ออกจากกัน และไม่มีทางที่อย่างหนึ่งอย่างใดจะลดน้อยถอยลงไปได้