วันอังคารที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ทวิตเรื่องที่มาของวันคริสต์มาส (ปี 2012)


ผมได้รวบรวมทวิตเตอร์ของผม (@Ajbomb) ในคืนวันก่อนคริสต์มาส (Christmas Eve) ปี 2012 มาไว้สำหรับผู้ที่ต้องการจะอ่านย้อนหลัง ครับ

คริสต์มาส ในความหมายแล้ว หมายถึงวันที่พระเยซูเกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ หรือวันฉลองวันคล้ายวันเกิดของพระเยซูนั่นเอง (1)

คริสต์มาสในความหมายที่แท้จริง จึงไม่ใช่วันเกิดของซานต้า หรือวันแจกของขวัญใดๆ  แต่ที่มีการฉลองเพราะเป็นวันที่ผู้ที่นับถือคริสต์ชื่นชมยินดีที่พระเยซูมาเกิด (2)
คำถามก็คือว่า แล้วทำไมต้องดีใจที่พระเยซูมาเกิด? เกิดแล้วดีต่อโลก ดีต่อชีวิตของผู้คนในสมัยนั้นหรือแม้กระทั่งสมัยนี้อย่างไรถึงได้ฉลองกันใหญ่โตไปทั้งโลก? (3)


คำตอบก็คือ คริสเตียน มีความเชื่อว่า พระเยซูคือ พระเจ้า ที่ (แบ่งภาค) มาเกิดเป็นมนุษย์ เพื่อเป็นคนกลางให้มนุษย์กับพระเจ้ากลับคืนดีกันอีกครั้ง (4)
ทีนี้อาจจะสงสัยกันสิว่า พระเจ้าไปเคืองมนุษย์ตั้งแต่เมื่อไร? ทำไมถึงต้องมีการคืนดีกันด้วย (5)
ตามไบเบิ้ลเขียนไว้ว่า มนุษย์โลกคู่แรกคือ อาดัมกับอีฟ ไม่เชื่อฟังพระเจ้า ที่สั่งห้ามกินผลไม้จากต้นไม้ชนิดนึงในสวนเอเด็น (6)
แต่เมียคือ อีฟ ดันไปเชื่อมารที่ยุให้กิน ทีนี้งานเข้าเลยทั้งผัวทั้งเมีย แล้วซวยต่อมาถึงรุ่นลูกรุ่นหลานยาวมาถึงรุ่นเราด้วย (7)
ผมจะไม่ลงรายละเอียดว่าผลไม้อะไรกินแล้วมันเป็นยังไง ซึ่งรายละเอียดเยอะ เด๋วจะยิบย่อยเกิน เอาเป็นว่าฝ่าฝืนคำสั่งพระเจ้า เลยโดนพระเจ้าลงโทษ (8)
พระเจ้าลงโทษโดยบอกว่าตัวเจ้าลูกหลานวงศ์วานของเจ้าต่อจากนี้ จะต้องเหนื่อยยากทำงาน อาบเหงื่อต่างน้ำ ไม่ชิลๆ เหมือนอยู่ในสวนเอเด็นที่พระเจ้าสร้างให้อยู่ตอนแรก (9)
คริสเตียนเชื่อว่าเพราะความไม่เชื่อฟังพระเจ้าของผัวเมียคู่นั้น ความบาปก็เข้ามาสู่มนุษย์ยาวเลยทีนี้ เหนื่อยสิครับพี่น้อง (10)
แต่เมื่อเวลาผ่านไป หลายๆ รุ่นจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลานเหลนโหลนของอาดัม อีฟ พระเจ้าก็มีแผนการใหม่มาช่วยมนุษย์  (11)
โดยบอกแผนการผ่านคนที่ติดต่อกับพระเจ้าได้ ออกมาเป็นการพยากรณ์ว่า ในอนาคตจะมี “พระผู้ช่วยให้รอด” มาบังเกิดในโลกมนุษย์ (12)
พระผู้ช่วยให้รอด คนนี้ล่ะ ที่จะทำให้บาปที่เริ่มต้นจาก อดัม อีฟ และทำให้พระเจ้าเคืองเรานั้น เป็นอันหายกัน ยกโทษให้หมด (13)
ทีนี้พอมีคำพยากรณ์แบบนี้คนก็รออย่างมีความหวัง ปรากฏผ่านไปประมาณ 400 ปี เงียบแซ่บ ยังไม่มีคนๆ นี้ปรากฏขึ้น(14)
และแล้ว เมื่อ 2000 กว่าปีที่ผ่านมานี้ ในคืนหนึ่งของเดือนธันวา สิ่งที่พระเจ้าบอกผ่านผู้พยากรณ์ก็เกิดขึ้น คือ มีทารกน้อยมาบังเกิดบนโลกมนุษย์ (15)
การเกิดของพระเยซูนี้ มีความมหัศจรรย์หลายประการ แต่ตรงตามคำพยากรณ์ทั้งสิ้น นั่นคือ เป็นทารกที่เกิดจากหญิงพรมจรรย์ ที่ไม่เคยหลับนอนกับชายมาก่อน (16)
ก่อนจะตั้งครรภ์พระเยซู ทูตสวรรค์มาบอกนางมารีย์ว่าพระเจ้าจะมาเกิดในครรภ์ของนาง นางก็ตกใจเพราะไม่เคยหลับนอนกับชายมาก่อน (17)
ทูตสวรรค์ชื่อ กาเบรียล ก็คอนเฟิมว่า เรื่องจริง พระเจ้าจะส่งพระเยซูมาบังเกิดในครรภ์นาง นางจึงเชื่อและยอมรับด้วยความยินดี (18)
ทีนี้งานจะเข้านางมารีย์ต่อ เพราะนางมีคู่หมั้นอยู่ชื่อ โจเซฟ อยู่แล้ว แต่ยังไม่เคยมีไรกัน ถ้านางมาท้องจะยังไงกัน นางเลยตัดสินใจเล่าเรื่องที่นางจะท้องให้ฟัง (19)
โยเซฟ ได้ฟังก็อึ้งกิมกี่สิคับพี่น้อง เป็นเราๆ ก็อึ้งอ้าว ท้องได้ไงเนี่ย ยังไม่ได้อะไรฟีเจอร์ริ่งกันเลย แบบนี้ชิ่งดีกว่า เลยตัดสินใจว่าจะถอนหมั้นกับนางมารีย์ซะ (20)
แต่พระเจ้ารู้ทันโยเซฟ เลยให้ทูตสวรรค์มาบอกโยเซฟว่า “บุตรของมารีย์จะมาบังเกิดโดยพระวิญญาณของพระเจ้า” พร้อมบอกให้ตั้งชื่อว่า “เยซู” ด้วย (21)
โยเซฟ ได้ยินแบบนี้จากทูตสวรรค์ ปุ๊ป โล่งใจเลยทีนี้ รับมารีย์เป็นภรรยาด้วยความยินดีแบบสุดๆ (22)
ต่อมามีประกาศจากทางการให้ประชาชนต้องเดินทางไปขี้นทะเบียนที่บ้านเกิดตัวเอง โยเซฟเลยต้องพามารีย์เดินทางไปยังเมืองบ้านเกิดคือ เบธเลเฮม (23)
ตอนนั้นมารีย์ก็ท้องแก่จะคลอดแล้ว โรงแรมโรงเตี๊ยมก็เต็มกันหมด เหมือนช่วงเทศกาล ทีนี้ทำไงกันดีมารีย์เกิดเจ็บท้องขึ้นมาซะแล้ว (24)
เมื่อหาโรงแรมพักไม่ได้ เลยไปอาศัยในคอกสัตว์ และที่นั่นเองที่มารีย์ได้ให้กำเนิดทารกน้อยชื่อ “เยซู” ในคืนหนึ่งของเดือนธันวาคม (25)
เรื่องวันเกิดของพระเยซู คือ 25 ธันวาคม เป๊ะๆ ใช่หรือไม่? อันนี้ไม่มีหลักฐานยืนยัน แต่เป็นการประมาณกาว่า น่าจะอยู่ช่วงประมาณนี้ เลยถือร่วมกันให้นับวันนี้เป็นหลัก (26)
เมื่อพระเยซูเกิดมา มารีย์ได้ใช้อ้าอ้อมพันกายของพระองค์ไว้ และวางพระองค์ไว้ในรางหญ้าที่ใช้ใส่อาหารสัตว์ (27)
นัยยะสำคัญตรงนี้คือ พระเยซู บุตรพระเจ้า เกิดมาในสภาพที่ติดดินจริงๆ ในคอกสัตว์ ท่ามกลางมูลสัตว์ นึกสภาพเอาล่ะกัน (28)
คนกลุ่มแรกที่รู้ข่าวการบังเกิดของพระเยซู คือ “คนเลี้ยงแกะ” เพราะทูตสวรรค์ไปปรากฏตัวบอกข่าวดีแก่พวกเขา(29)
การบอกข่าวกับ “คนเลี้ยงแกะ” เป็นกลุ่มแรกก็มีนัยยะสำคัญซ่อนอยู่แต่เนื้อที่จำกัดวันหน้าค่อยเล่าให้ฟัง (30)
คนอีกกลุ่มหนึ่งที่รู้ข่าวเรื่องการเกิดของพระเยซู คือพวกโหราจารย์และนักปราชญ์ที่อยู่ไกลออกไปทางทิศตะวันออก เขารู้ได้จากการเห็นดวงดาว (31)
ดังนั้นจะเห็นการ์ดหรือต้นคริสต์มาสมีรูปดาวสุกสว่างด้านบน ก็มาจากเรื่องที่ว่านักปราชญ์เห็นดาวเลยรู้ว่าพระเยซูบังเกิดแล้ว (32)
นักปราชญ์พวกนี้รอนแรมตามหาพระเยซูจนเจอในคอกสัตว์และนำของพวกทองคำ กำยาน ฯลฯ มาถวายให้พระองค์ด้วย (33)
ความสำคัญของการเกิดขึ้นของพระเยซู คือพระองค์จะเป็นผู้ช่วยให้คนบาปที่รับมรดกบาปจากอดัมและอีฟ ได้หลุดพ้นบาปกันซะที (34)
ทีนี้พันธนาการความบาปที่สืบทอดต่อๆ กันมาก็จะหยุดวงจรนี้ด้วยบุรุษผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ คือ "พระเยซู" ที่พระเจ้าส่งลงมา (35)
 แต่พระเยซูจะหยุดวงจรบาปของเราอย่างไร ด้วยวิธีไหน อันนี้เล่าแล้วก็จะยาว น่าจะถึงตี 5 แน่นอน จะมีใครอยู่ฟังไหมเนี่ย (36)
ในเมื่อวันนี้เป็นวันคริสต์มาส ก็ขอนำเสนอ ที่มาที่ไปของวันนี้ เพียงนี้ก่อน ขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับสติปัญญา ที่ช่วยให้ลูกเรียบเรียงทวิตออกมาได้ (37)
สิ่งที่ผมทวิตเล่ามาทั้งหมด สามารถฟังเป็นเพลงได้ที่นี่ (ร้องโดย โรส)




สำหรับท่านที่สนใจอยากรู้จักพระเจ้าและพระเยซูมากขึ้น สามารถไปพูดคุยกับคริสตจักรใกล้บ้านท่านหรือฟังคำสอนและอ่านบทความต่างๆ ของ คริสตจักร พระคุณเต็มล้น ที่ผมเป็นสมาชิกอยู่ก็ได้ครับที่ลิ๊งค์นี้ http://www.agcasia.org/ 

ขอพระคุณความรักของพระเจ้าและพระเยซูคริสต์ จงนำให้ทุกท่านบังเกิดแต่สันติสุขและมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงครับ

พระสิริมีแด่พระเจ้า....
24-12-2012



ไม่มีความคิดเห็น: